วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

พันธุ์ไม้รักษาโรค

พันธุ์ไม้ที่ใช้เป็นยารักษาโรค

คนไทยรู้จักใช้พืชพันธุ์ไม้เป็นยา มาตั้งแต่สมัยโบราณ และถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ ให้ลูกหลานสืบทอดกันมา วิถีชีวิตของคนไทยในเรื่องดังกล่าว จึงปรากฏในวรรณคดีด้วย เช่น ใน นิราศสุพรรณ



น้ำใจใคร่ (Olax scandens Roxb.) 

น้ำใจใคร่เป็นพืชสมุนไพร ซึ่งบางพื้นที่เรียกว่า กระทกรก พบขึ้นทั่วไปทุกภาค ลักษณะเป็นไม้รอเลื้อย ที่แตกกิ่งก้านสาขามาก มีขนละเอียด สีขาวอยู่ทั่วลำต้น และมักมีหนามตามกิ่งแก่ๆ ใบเดี่ยวสีเขียวเป็นมันรูปขอบขนาดแกมใบหอก ขนาดกว้าง ๒ - ๓ ซม. ยาว ๕ - ๗ ซม. ดอก เป็นช่อสั้นๆ ออกดอกสีขาวตามซอกใบพร้อมๆ กัน เกือบทั้งกิ่ง มีกลีบดอก ๕ - ๖ กลีบ กลิ่นหอม ผลรูปไข่ปลายแหลมเล็กน้อย ขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลาง ๑ - ๑.๕ ซม. ผลสุกสีเหลือง หรือส้ม รับประทานได้ ชาวบ้านรับประทานใบและยอด อ่อนๆ เป็นผัก 

น้ำใจใคร่มีสรรพคุณทางสมุนไพร ลำต้นใช้ทำยาต้ม แก้โรคไตพิการ และโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เปลือกเป็นยาแก้ไข้



ราชดัด (Brucea javanica Merr.) 

ราชดัดเป็นพืชวงศ์เดียวกับสีฟันคนทา และประทัดใหญ่ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่สำคัญ พบในป่าโปร่งทุกภาค มีชื่ออื่นที่ใช้เรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ทางภาคใต้เรียกว่า กะดัด หรือ ฉะดัด ภาคกลางเรียกว่า ดีคน ตราดเรียกว่า พญาดาบหัก เชียงใหม่เรียกว่า กาจับหลัก หรือ มะดีควาย

ลักษณะของราชดัดเป็นไม้พุ่มใหญ่ สูง ๒ - ๓ เมตร ทรงพุ่มโปร่ง ใบประกอบแบบขนนก มีก้านใบยาว เรียงสลับอยู่ห่างๆ ใบย่อยแต่ละใบเป็นรูปไข่แกมรูปใบหอก หรือรูปรี ปลายแหลม ขอบจัก มีขนนุ่มๆ ทั้ง ๒ ด้าน ดอกเล็กๆ สีน้ำตาลแกมแดง ออกดอกเป็นช่อ ยาวๆ ตรงซอกใบ ผลรูปใข่ปลายแหลม ขนาด เล็ก เมื่อแห้งจะมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ผิวย่น คล้ายเมล็ดมะละกอแห้ง ปัจจุบันมีปลูกตามสวน สมุนไพรเกือบทุกแห่ง เนื่องจากผลราชดัดเป็น ยารักษาโรคบิด แก้ท้องเสีย และแก้ไข้ได้ดี นอกจากนี้ ใบยังใช้ถอนพิษสัตว์กัดต่อยได้ด้วย


สลัดได (Euphorbia antiquorum Linn.) 

สลัดไดเป็นพันธุ์ไม้วงศ์เดียวกับมะยม พบในที่แห้งแล้งทั่วไป ลำต้นอวบน้ำเป็นแท่งสีเขียว มีหนาม มักจะไม่ค่อยมีใบ จึงทำให้มีลักษณะคล้ายกระบองเพชร และมักจะเข้าใจกันว่า เป็นกระบองเพชรชนิดหนึ่งเสมอ มีข้อแตกต่างที่ใช้สังเกตได้ คือ สลัดไดมียางสีขาวขุ่น เมื่อทำให้เกิดบาดแผล แม้เพียงเล็กน้อย น้ำยาสียาวจะไหลออกมาทันที แต่กระบองเพชรไม่มียาง นอกจากนั้น ดอกของสลัดไดจะมีขนาดเล็ก สีเหลืองหรือ เหลืองอมเขียว ขนาดเล้นผ่านศูนย์กลางดอก ไม่ถึง ๑ ซม. คล้ายดอกไม้ชั้นเดียว แต่ส่วนที่ เห็นเป็นกลีบๆ นั้นคือใบประดับ ขณะที่ดอก กระบองเพชรมีขนาดใหญ่กว่ามาก และมีกลีบ ดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกัน

ลำต้นสลัดไดเป็นแท่งสามเหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยม มีสันเป็นแนวตรง มีใบเล็กๆ ซึ่งมักจะหลุดร่วงง่าย นำมาปลูกเป็นรั้ว หรือปลูกด้านนอก ของกำแพงรั้วบ้าน เพื่อกันคนและสัตว์ เนื่องจาก ต้นแข็งและมีหนามแหลมคม

ยางสลัดไดมีพิษ หากสัมผัสกับผิวหนัง อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นผื่นคัน หรือกัดผิว ตำรายาไทยใช้ยางกัดหูดตามผิวหนัง ซึ่งจากผลการวิจัยในปัจจุบันพบว่า มีสารร่วมก่อ มะเร็งในน้ำยาง จึงไม่ควรนำมาใช้ ต้นที่แก่จัด ลำต้นจะมีแก่นแข็งข้างใน เมื่ออายุประมาณ ๑๐ ปีขึ้นไป ต้นจะตายลง แต่แก่นแข็งๆ ยังอยู่ มี ลักษณะเหมือนไม้แห้งๆ สีน้ำตาล มีกลิ่นหอม และรสขม เรียกว่า กะลำพัก ใช้ทำยาแก้ไข้ได้ดี


ไข่เน่า (Vitex glabrata R. Br.)

ไข่เน่าเป็นไม้ต้นในวงศ์เดียวกับสักและผกากรอง มีชื่ออื่นที่เรียกกันคือ คมขวาน และผรั่งโคก พบในป่าเบญจพรรณทั่วไป ขนาดต้น สูง ๑๕ - ๒๐ เมตร มีใบประกอบแบบฝ่ามือ ขนิด ๕ ใบย่อย สีเขียวเข้ม ดอกสีม่วงอ่อน เป็นช่อตรงซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ผลรูปไข่ ยาว ๒ - ๓ ซม. เมื่อสุกมีสีม่วงดำ เนื้อนุ่ม สันนิษฐาน ว่า ชื่อไข่เน่าคงจะมาจากลักษณะและสีของผล นั่นเอง ผลสุกรับประทานได้ แต่รสหวานเอียน ไม่อร่อย ถ้าไส่เกลือป่นหรือจิ้มเกลือจะมีรสชาติ ดีขึ้น ไข่เน่าขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด

เนื้อไม้ของไข่เน่าแข็ง ใช้ทำเครื่องเรือน และของใช้ต่างๆ เปลือกต้น ซึ่งมีรสฝาด ใช้แก้ท้องเสีย แก้บิด แก้ไข ขับพยาธิในเด็ก รากใช้แก้ท้องเสีย และเป็นยาเจริญอาหาร


ชิงช้าชาลี (Tinospora cordifolia Miers) 

ทางภาคเหนือเรียกพันธุ์ไม้เลื้อยชนิดนี้ว่า จุ่งจะลิง หรือจุ่งจะลิงตัวแม่ อยู่ในวงศ์และสกุลเดียวกับบอระเพ็ด ซึ่งคนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ในเรื่องความขม และการใช้เป็นยาแก้ไข้ ชิงช้าชาลี เป็นไม้เลื้อย ลำเถายาว แต่มีปุ่มปมน้อยกว่า บอระเพ็ด พบมากในภาคกลาง ขึ้นเลื้อยพันตาม ต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มในป่าละเมาะ แม้แต่ที่รกร้าง รอบๆ กรุงเทพฯก็สามารถพบได้ ใบเดี่ยวเป็นรูป หัวใจ ขนาดกว้างยาวประมาณ ๕ - ๑๐ ซม. ดอก สีเหลืองเล็กๆ ออกเป็นช่อยาวตามข้อและที่ซอกใบ ผลกลมขนาดเล้กอยู่เป็นกลุ่มๆ เมื่อสุกจะมีสีเหลือง

ชิงช้าชาลีมีรสขมเช่นเดียวกับบอระเพ็ด ตำรายาไทยใช้ลำต้นแก้ไข้ บำรุงธาตุ และเป็นยาเจริญอาหาร ใบสดใช้แก้ปวด และถอนพิษ แต่การวิจัยปัจจุบันพบว่า ไม่มีฤทธิ์แก้ไข้


สมอ (Terminalia spp.) 

พันธุ์ไม้ที่เรียกว่า สมอ ส่วนมากหมายถึง พันธุ์ไม้ในวงศ์และสกุลเดียวกับหูกวาง ๓ ชนิด คือ สมอไทย สมอพิเภก และสมอดีงู ต่างก็เป็นสมุนไพร ที่ใช้ผลดิบเป็นยาระบาย ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุมักรับประทานเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าไม่มีพิษภัย และจะช่วยให้ไม่เจ็บป่วยด้วย เป็นไม้ต้น ซึ่งพบอยู่ตามป่า ในภาคต่างๆของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ในภาคใต้จะพบสมอดีงูมากกว่าสมอชนิดอื่น สมอเป็นไม้ผลัดใบ ซึ่งจะออกดอกหลังจากที่ใบอ่อนเริ่มผลิใหม่ ดอกเล็กสีขาว หรือเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อยาวๆ ตรงซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ผลเป็นแบบที่มีเนื้อ รูปร่างลักษณะของผลสมอแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ผลสมอไทยมีรูปป้อมๆ ผิวเกลี้ยงไม่มีขน ขนาดกว้าง ๒ - ๓ ซม. ยาว ๓ - ๔ ซม. เมื่อผลแก่จะมีสีเขียวอมเหลือง ผลแห้งสีดำ ผลอ่อน ใช้เป็นยาระบาย ขับเสมหะ และแก้ไข้ ผลที่แก่และดิบใช้รับประทาน เป็นผักจิ้มน้ำพริก 

ผลของสมอพิเภกค่อนข้างกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ ซม. ผิวมีขนนุ่มสีน้ำตาล หรือน้ำตาลแกมเหลืองปกคลุมอยู่ทั้งผล มีสันตามยาว ๕ สัน มักออกรวมกันเป็นพวงๆ ที่ปลายกิ่ง ผลอ่อนมีรสเปรี้ยว ใช้เป็นยาระบาย ผลสุกจะมีรสฝาดใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย และเป็นยาเจริญอาหาร ส่วนผลแห้งใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้ไอ 

สมอดีงู หรือสมอหมึก มีผลค่อนข้างยาว หัวและท้ายแหลม คล้ายผลสมอของจีน รสฝาดและขม ผลสุกสีม่วงแกมเขียว ตำรายาไทยใช้ผลอ่อนเป็นยาระบาย แก้โลหิตเป็นพิษ และแก้ไข้ 

สมอทั้ง ๓ ชนิดนี้ เปลือกต้น และผลดิบ มีสารฝาด จึงใช้ในการย้อมแหอวนให้มีสีเข้ม และใช้ได้ทนทาน เพราะสารฝาดช่วยลดการเสื่อมสภาพของด้ายหรือเชือก ที่ใช้ทำแหและอวน โดยเฉพาะสมอพิเภก เปลือกและผลใช้ย้อมผ้าให้เป็นสีเขียวขี้ม้า







วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

ดอกไม้ที่สวยที่สุด

อันดับที่1 ดอก ซากุระ
ซากุระ (ภาษาญี่ปุ่น : 桜 หรือ 櫻) เป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีถิ่นกำเนิดในจีนตอนใต้ เกาะไต้หวัน หมู่เกาะโอกินาวา ญี่ปุ่น ลักษณะเด่นของซากุระก็คือ เมื่อร่วง จะร่วงพร้อมกันหมด ซากุระจึงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดทหารและซามูไรของญี่ปุ่น
มีดอกซากุระในเกาหลีสหรัฐอเมริกาแคนาดาจีน หรือที่อื่นๆ แต่ไม่มีกลิ่น ขณะที่ซากุระของญี่ปุ่นนั้นผู้คนจำนวนมากยกย่องชื่นชมกลิ่นของมัน และมักจะกล่าวฝากไว้ในบทกวี
ดอกซากุระของญี่ปุ่นนี้ ในภาษาอังกฤษมีคำเรียกทั่วไปว่า “cherry blooms” หรือ “cherry blossom” หรือไม่ก็ “Japanese Flowering Cherry” จะบานในช่วงปลายมีนา-ต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้นจากฤดูหนาวที่หมดไป
ดอกซากุระ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เชื่อกันว่ากร่อนมาจากคำว่า ซะกุยะ (หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นชื่อของเจ้าหญิง โคโนฮะนะซะคุยาฮิเม มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย สำหรับพระนามของเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่าเจ้าหญิงดอกไม้บาน และเนื่องจากซากุระเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นสมัยนั้น คำว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากุระนั่นเอง เจ้าหญิงองค์ดังกล่าวได้รับพระนามเช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงตกจากสวรรค์ มาบนต้นซากุระ ดังนั้น ดอกซากุระจึงถือเป็นตัวแทนของดอกไม้ญี่ปุ่น ขณะที่รัฐบาลประกาศให้ดอกเก็กฮวย (ดอกเบญจมาส) เป็นดอกไม้ประจำชาติ


อันดับที่ 2
ดอกพุทธรักษา
 
     พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธ    



อันดับที่ 3

ดอกปักษาสวรรค์

ปักษาสวรรค์มีใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอกแกมขอบขนาน คล้ายใบกล้วย ปลายใบแหลม โคนมนถึงสอบ ขอบเรียบกว้าง 10 - 15 ซม. ยาว 30 - 60 ซม. ก้านใบยาว 30 -60 ซม. บริเวณช่วงต่อกับแผ่นใบกลมมน โคนก้านใบแผ่แบนเป็นกาบโอบรอบต้น
จะเริ่มให้ดอกเมื่ออายุ 3 - 6 ปี ดอกมีรูปทรงคล้ายนกที่กำลังกางปีก อาจจะออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อประมาณ 3 -7 ดอก ออกจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกกลม มีกาบรองดอกรูปเรือรองรับดอกย่อย แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงรูปหอกแคบยาว 3 กลีบ และกลีบดอกรูปหัวลูกศร 2 กลีบ ส่วนปลายกลีบห่อติดกัน มีเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ภายใน ตอนปลายสุดของหัวลูกศรมียอดเกสรเพศเมียสีน้ำตาลยื่นออกมา เมื่อดอกบานเต็มที่มีความยาว 8 - 12 ซม. ทยอยบานจากโคนช่อไปปลายช่อ ผลมีรูปรี จะแห้งและแตก ภายในมีเมล็ด 3 เมล็ด รูปกลม มีเปลือกหนาสีดำ


อันดับที่ 4
ดอกไฮเดรนเยีย
    ไฮเดรนเยีย(Hydrangea)เป็นไม้พุ่งสูง1-3เมตรจัดเป็นพืชหลายฤดูชอบอากาศหนาวเย็น บางชนิดเป็นไม้ยืนต้น
หรือไม้เลื้อยแต่ส่วนใหญ่มักเป็นไม้พุ่มเตี้ยใบเกิดแบบตรงข้ามแผ่นใบมีขนาดกว้างใหญ่ขอบใบจักช่อดอกเกิดส่วนปลายกิ่งหรือยอด
ลำต้นดอกประกอบด้วยใบประดับที่มีสีสวยงามแล้วแต่พันธุ์ ไฮเดรนเยียอาจผลัดใบหรือไม่ผลัดใบก็ได้แต่ถ้าเป็นชนิด
ที่อยู่ในเขตอบอุ่นจะผลัดใบพักตัวในฤดูหนาวดอกของไฮเดรนเยียเกิดที่ปลายยอดกิ่งหรือยอดลำต้น เป็นช่อดอกแบบช่อเชิง
หลั่นหรือช่อแยกแขนง(corymbsorpanicles) ช่อดอกประกอบด้วยดอกสองแบบคือกลุ่มดอกสมบูรณ์เพศซึ่งมีขนาดเล็ก
ที่อยู่บริเวณใจกลางช่อดอกใหญ่ ส่วนกลุ่มดอกที่มีขนาดดอกย่อยใหญ่สะดุดตานั้นความจริงเป็นดอกที่เกิดจากกลีบดอก
ประดับดูสะดุดตา เกิดเป็นวงรอบขอบนอกของช่อดอกใหญ่ไฮเดรนเยียบางชนิดมีช่อดอกซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยสมบูรณ์เพศ
ทั้งช่อเลยก็มี ดอกไฮเดรนเยียส่วนใหญ่จะมีสีขาวเป็นหลัก แต่บางชนิด เช่น H. macrophylla อาจเป็นสีน้ำเงิน แดง
ชมพูหรือม่วง ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความเป็นกรดหรือด่างของเครื่องปลูก หากเครื่องปลูกมีสภาพเป็นกรด pH 5.0-5.5สีดอกจะออก
เป็นสีน้ำเงิน ถ้าสภาพเป็นด่างจะให้ดอกสีม่วงหรือชมพูถ้าปลูกในเครื่องปลูกที่สภาพเป็นกลางดอกไฮเดรนเยียจะมีสีครีมซีด
ทั้งนี้เพราะไฮเดรนเยียเป็นหนึ่งในบรรดาพืชไม่กี่ชนิดที่สะสมธาตุอะลูมินัม ธาตุนี้จะถูกปลดปล่อยออกมาจากเครื่องปลูก
ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ธาตุนี้จะทำปฏิกิริยากับสารละลายในกลีบดอกทำให้เกิดสีน้ำเงินขึ้นได้ ปกติไฮเดรนเยียต้องการดินที่เป็นกรดอ่อน
pH 6.0-6.5 จะเติบโตได้ดี



อันดับที่ 5


คาลล่า ลิลลี่ หรือCalla Lily

คาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) เป็นพันธุ์ไม้หัว ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ มีต้นกำเนิดในแอฟริกาใต้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 สายพันธุ์ค่ะ คือพันธุ์ไม้ยืนต้น ที่ปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก (Cut Flower) และพันธุ์ไม้ล้มลุก ซึ่งจะมีการพักหัวในฤดูหนาว นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง (Pot Flower) ถึงแม้คาลล่า ลิลลี่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่าสำหรับเกษตรกร ที่ต้องการปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก เนื่องจากลงทุนปลูกครั้งเดียว แต่สามารถตัดดอกขายได้ต่อเนื่องนานถึง 4- 5 ปีโดยไม่ต้องขุดหัวขั้นมาปลูกใหม่ แต่คาลล่า ลิลลี่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องอุณหภูมิในการปลูก เหมาะสำหรับเกษตรกรที่อยู่บนที่สูงหรือบนดอย ที่มีอุณหภูมิที่ 18 - 24 องศาเซลเซียส





   อันดับที่ 6

ดอกซูซานตาดำหรือBlack Eyed Susan

ซูซานตาดำ, wildflower ร่าเริงอยู่ตลอดกาลที่ทำหน้าที่เป็นแบบเลื่อนกลับที่สวยงามในสวนใด ๆความคมชัดของสีทองสดใสกลีบดอกสีเหลืองและสีดำตรงกลางจะทำให้ง่ายต่อการใด ๆจุดหนึ่งและทราบว่าเป็น


 อันดับที่ 7
ดอกโลหิตแห่งหัวใจหรือดอกหทัยหยาดทิพย์หรือBleeding Heart

หตุที่เขาได้ชื่อว่า bleeding heart ก็เพราะว่า เมื่อดอกเขาผลิใหม่ ๆ ยังตูม ๆอยู่ที่ปลายแหลมของหัวใจด้านล่าง จะมีติ่งรูปร่างคล้ายหยดน้ำ มีสีแดง ๆ ดูเหมือนหยดเลือด  แต่เมื่อดอกเริ่มบาน  ตัวหยดจะเปิดออกให้เห็นใส้สีขาว ๆ อยู่ข้างใน คราวนี้จะเห็นหยดน้ำไหลออกมาจากหัวใจแทน คนเยอรมันเห็นตรงนี้เหมือนหยดน้ำตา เลยเรียกดอกนี้ว่า  Traenendes herz ดอกหัวใจเจ้าน้ำตา  ลองดูจากรูป รูปข้างบน หรือรูปข้างล่างก็ได้ ก็จะเห็นตามที่ว่านี้





อันดับที่ 8
ดอกระฆังหรือBlue Bells
     ในฤดูใบไม้ผลิป่ายุโรปจำนวนมากถูกปกคลุมด้วยพรมหนาแน่นของดอกไม้นี้เหล่านี้เป็นที่เรียกทั่วไปว่า"ไม้ดอกไม้ชนิดหนึ่ง" มันเป็นความคิดที่พวกเขาตั้งชื่อโดยกวีโรแมนติกของศตวรรษที่ 19, ผู้ที่รู้สึกว่าเหงาสัญลักษณ์และเสียใจ


อันดับที่ 9
ดอกผกากรองหรือLantana
     ดอกไม้เหล่านี้ละเอียดอ่อนที่มีกลีบดอกสีชมพูและสีเหลืองของพวกเขาจะแม่เหล็กผีเสื้อ พุ่มไม้ที่สามารถเติบโตได้มีขนาดใหญ่มากและสีของการเปลี่ยนแปลงกลีบเป็นพืชอายุ ระวัง -- Lantana ถือว่าเป็นวัชพืชโดยมากมายที่ค่อนข้างยากที่จะกำจัด



อันดับที่ 10
ดอกกุหลาบ
     ดอกกุหลาบเป็นหนึ่งในที่สุดโรแมนติกและมหัศจรรย์หอมของดอกไม้ ของดอกกุหลาบให้แพร่หลายในประเพณีและความหมายทางวัฒนธรรมจากสีเหลืองเพิ่มขึ้นของมิตรภาพเพื่อแดงเข้มเพิ่มขึ้นของความรักที่แท้จริง


ดาราที่ชอบ

  • Name : Alexander Simon Rendellชื่อ  อเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์
    (Alexander มีความหมายว่า นักรบผู้กล้าหาญและเชี่ยวชาญ)
    Thai Name : Niravit Rendellชื่อไทย  นิรวิทย์ เรนเดลล์
    Nick Name : Alexชื่อเล่น  อเล็กซ์
    Birth Date : January 9,1990วันเกิด  9 มกราคม 2533
    Birth Place : Indonesiaสถานที่เกิด  อินโดนีเซีย
    Nationality : Thai-Englishเชื้อชาติ  ไทย-อังกฤษ
    Education : Bangkok Patana Schoolการศึกษา  โรงเรียนบางกอกพัฒนา
    Father : Benjamin Rendellคุณพ่อ  เบนจามิน เรนเดลล์
    Mother : Duangsamorn Rendellคุณแม่   ดวงสมร เรนเดลล์
    Relations : One elder brother and one elder sisterพี่น้อง  พี่ชาย 1 คน พี่สาวคน
    Hobbies : Play footballงานอดิเรก  เล่นฟุตบอล
    Sport : Football, Running, Swim, Golfกีฬา  ฟุตบอลวิ่งว่ายน้ำกอล์ฟ
    Football player : Louis Zaha, Ronaldoนักฟุตบอลที่ชื่นชอบ  หลุยส์ ซาฮาโรนัลโด
    Actor : Chakrit yamnamนักแสดงชายคนโปรด  ชาคริต แย้มนาม
    Actress : Pim zazaนักแสดงหญิงคนโปรด  พิมพ์ ซาซ่า
    ผลงานละครละคร
    เรื่อง
    หัวใจและไกปืน
    คุณชาย
    รักสุดท้ายที่ปลายฟ้า
    ยอดชีวัน
    ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น
    บ่วงบรรจถรณ์ แหลมทอง
    เก็บแผ่นดิน
    พี่เลี้ยงกึ่งสำเร็จรูป
    สาวน้อยในตะเกียงแก้ว
    กษัตริยา
    ครูสมศรี
    ละครเฉลิมพระเกียรติ แสงเทียน
    ละครสั้นเทเลพิคเจอร์เรื่อง “อะไรครับ”
    ละครซีรีส์ซีไรท์ “โลกคู่ของใหม่”
    ละครซีรีส์ “ตัดหางปล่อยวัด”
    สาวน้อยในตะเกียงแก้ว แสดงเป็น พงศ์
    ลูกผู้ชาย แสดงเป็น มาโนช (ตอนเด็ก)
    กษัตริยา แสดงเป็น พระเอกาทศรถ หรือ องค์ขาว (ตอนเด็ก)
    ครูสมศรี แสดงเป็น แมงกอย
    รักสุดขั้ว แสดงเป็น เณรจ่อย
    หมอผีไซเบอร์ แสดงเป็น อาคม
    คดีเด็ด เหตุแห่งรัก รับบท การันต์
    ก๊วนใสหัวใจสะออน แสดงเป็น ปลี
    กระดานสีรุ้ง แสดงเป็น ข้าวตู
    ละครเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันแม่ เรื่อง“ชัยชนะของแม่” แสดงเป็น บอย
    สะดุดรัก แสดงเป็น พระเอกตอนเด็ก
    ระเบิดเถิดเทิง
    บัวปริ่มน้ำ แสดงเป็น สาโรจน์ (อ๊อด)
    มณีดิน แสดงเป็น ปกป้อง
    ละครเทิดพระเกียรติวันแม่ เรื่อง “ คือสายใยแห่งรัก ” แสดงเป็น แก้ว
    พริกไทยกับใบข้าว แสดงเป็น เกลือป่น
    สุดแต่ใจจะไขว่คว้า แสดงเป็น พัฒนะ
    เพลิงสีรุ้ง รับบท ขัตติยะ (ขวด)(รับเชิญ)
    บันทึกกรรม
    สามหัวใจ รับบท ชัช
    สะใภ้ไม่ไร้ศักดินา
    รักปาฏิหาริย์ คู่กับ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง
    รางวัลที่เคยได้รับรางวัลมิลกี้ อวอร์ด ปี 2547 สาขา ผู้แสดงละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยมฝ่ายชาย

    ผลงานอื่น
    ปฏิทินช่อง 3 ปี 2551 : เดือนกันยายน ร่วมกับ รวมดาราดังคนชอบกล
    ปฏิทินช่อง 3 ปี 2552 : เดือนเมษายน ร่วมกับ หยาดทิพย์ ราชปาล วิรากานต์ เสณีตันติกุล
    ปฏิทินช่อง 3 ปี 2553 : เดือนกรกฎาคม ร่วมกับ จอมขวัญ ลีละพงศ์ประสุต ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง
    ปฏิทินช่อง 3 ปี 2554 : เดือนมกราคม ร่วมกับ มาริโอ้ เมาเร่อ, คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ และ ณฐพร เตมีรักษ์


       


















วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

การใช้ชีวิตประจำวัน วันจันท์ ถึง วันอาทิตย์

1. วันจันทร์
06.00 ตื่นขึ้นมาเพื่อ อาบน้ำไปโรงเรียน วันจันทร์เรียนที่เทคนิคมหาชัย
07.40 เข้าแถวเคารพ ธงชาติ
08.15-12.00 เรียนวิชา วิทยาศาสตร์
12.00 พักกลางวัน
13.00-15.00 เรียนวิชา ภาษาอังกฤษ
15.00 กลับบ้าน
15.30-20.00 นอนดูโทรทัศน์
20.00-20.30 อาบน้ำ
20.30-22.30 ดูหนังรอบดึก
22.30 นอน

2. วันอังคาร
06.00 ตื่นขึ้นมาเพื่อ อาบน้ำไปโรงเรียน วันจันทร์เรียนที่เทคนิคบ้านบ่อ
07.40 เข้าแถวเคารพ ธงชาติ
08.15-12.00 เรียนวิชา โครงการ
12.00 กลับบ้าน
13.30-20.00 นอนดูโทรทัศน์
20.00-20.30 อาบน้ำ
20.30-22.30 ดูหนังรอบดึก
22.30 นอน

3.วันพุธ
06.00 ตื่นขึ้นมาเพื่อ อาบน้ำไปโรงเรียน วันจันทร์เรียนที่เทคนิคบ้านบ่อ
07.40 เข้าแถวเคารพ ธงชาติ
08.15-12.00 เรียนวิชา คณิตศาสตร์อุตสาหกรรม
12.00 พักกลางวัน
13.00-15.00 เรียนวิชา
15.00 กลับบ้าน
15.30-20.00 นอนดูโทรทัศน์
20.00-20.30 อาบน้ำ
20.30-22.30 ดูหนังรอบดึก
22.30 นอน

4.วันพฤหัสบดี
06.00 ตื่นขึ้นมาเพื่อ อาบน้ำไปโรงเรียน วันจันทร์เรียนที่เทคนิคบ้านบ่อ
07.40 เข้าแถวเคารพ ธงชาติ
08.15-12.00 เรียนวิชา คอมพิวเตอร์
12.00 พักกลางวัน
13.00-17.00 เรียนวิชา คอมพิวเตอร์
17.00 กลับบ้าน
17.30-20.00 นอนดูโทรทัศน์
20.00-20.30 อาบน้ำ
20.30-22.30 ดูหนังรอบดึก
22.30 นอน

5.วันศุกร์
06.00 ตื่นขึ้นมาเพื่อ อาบน้ำไปโรงเรียน วันจันทร์เรียนที่เทคนิคบ้านบ่อ
07.40 เข้าแถวเคารพ ธงชาติ
08.15-12.00 เรียนวิชา คอมพิวเตอร์
12.00 กลับบ้าน
13.30-20.00 นอนดูโทรทัศน์
20.00-20.30 อาบน้ำ
20.30-22.30 ดูหนังรอบดึก
22.30 นอน

6. วันเสาร์
10.00 ตื่น อาบน้ำ
10.30 -12.00 ซักผ้า ทำงานบ้าน
12.00-20.00 นอนดูโทรทัศน์ เล่นคอม
20.00-20.30 อาบน้ำ
20.30-22.30 นอนดูโทรทัศน์
22.30 นอน

7. วันอาทิตย์
11.00 ตื่น-อาบน้ำ
11.30-17.00 ออกไปเที่ยวนอกบ้านกับครอบครัว
17.00 กลับบ้าน
18.00-18.30 อาบน้ำ
18.30-22.30 ดูโทรทัศน์
22.30 นอน

รูปภาพเที่ยวนอกบ้าน




















รูปภาพเวลาไปเรียน






วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

โทรศัพท์มือถือที่สนใจ

i-mobile IQ9 - ไอโมบาย IQ9


ข้อมูลเครือข่าย (Network)
ข้อมูลตัวเครื่อง
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU)
ระบบเชื่อมต่อ
ใช้งานอินเตอร์เน็ต
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
แอพพลิเคชั่นมาตรฐาน
การโทร และ ฟังก์ชั่นพื้นฐาน